ยกจังหวัด! ‘เพื่อไทย’ มั่นใจแลนด์สไลด์เมืองชล ‘เศรษฐา’ ลั่นพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ

Pheu-Thai-Party-confident-that-will-win-elections-in-Chonburi-SPACEBAR-Thumbnail.jpg
  • มั่นใจแลนด์สไลด์! ‘สนธยา’ ลั่น ‘เพื่อไทย’ กวาด ส.ส.เมืองชล ยกจังหวัด ไม่หวั่นคู่แข่ง
  • ด้าน ‘เศรษฐา’ ย้ำพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ เมิน ‘อนุทิน’ ปรามาสไร้ประสบการณ์ บอกพรรคมีทีมแข็ง
  • ขณะที่ ‘ชลน่าน’ ดักคอ ‘บิ๊กตู่’ ประชุม ครม.เทกระจาดถึง 4 โมงเย็น
Share with trust
แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, สนธยา คุณปลื้ม แกนนำชลบุรี ร่วมลงพื้นที่พูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และการสนับสนุนจากภาครัฐ กับผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.ชลบุรี  
  
โดย สนธยา แสดงถึงความมั่นใจกวาด ส.ส.แบบแลนด์สไลด์ในพื้นที่ชลบุรี ว่า สิ่งที่ทำให้กล้าประกาศแลนด์สไลด์ คือผลงานที่ผ่านมาทีมของชลบุรี และพรรคเพื่อไทย ย้อนไปจนถึงสมัยพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ที่จับต้องได้ ประกอบกับการขับเคลื่อนนโยบายที่พึ่งประกาศไป และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทำให้มั่นใจว่าจะยกจังหวัด ส่วนกรณีมีบ้านใหม่เกิดขึ้นในชลบุรี ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่นั้น สนธยา มองว่า คู่แข่งก็คือคู่แข่ง แต่การเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชน  
  
“จะดูหลายอย่าง ไม่ใช่แค่หัวโขน นิทาน เรื่องเล่า แต่ดูความจริงใจ ย้ำว่ามั่นใจสนามนี้ เราสู้เต็มที่” สนธยา ระบุ   
  
นอกจากนี้ สนธยา ยังไม่กังวลว่า พรรคก้าวไกลจะกลายเป็น 'ตาอยู่' เหมือนการเลือกตั้งปี 2562 โดยมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนปี 2562 มาจากเหตุการณ์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่กลัว จะเป็นอีกแบบ  สนธยา อ้างด้วยว่า วันนี้ มีการใช้อำนาจรัฐบางอย่างมาข่มขู่ ทำให้เกิดความแตกแยก แต่พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน ไม่มีแบ่งแยกฝั่ง แบ่งแยกฝ่าย ทีมชลบุรีถือว่าประชาชนคือศูนย์กลาง ส่วนกรณีจะใช้กระสุนการเมืองในการเลือกตั้งนั้น เราใส่เสื้อเกราะ เราไม่กลัว เสื้อเกราะของเราคือประชาชน  
  
ด้าน เศรษฐา ยอมรับว่ายังไม่ชินกับการลงพื้นที่พบประชาชน แม้จะเข้าเป็นสัปดาห์ที่ 2 เพราะเป็นก้าวใหม่ของชีวิต ตนเพิ่งก้าวเข้ามา ถือเป็นน้องใหม่ ขณะเดียวกัน ยอมรับถึงการถูกจับตาในสนามการเมืองมากขึ้น รวมไปถึงการขุดคุ้ยของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อย่างไรก็ตาม มองว่า แต่ละคนมีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนตัวมั่นใจในการทำงานเพื่อประชาชน และมั่นใจในเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ทั้งนี้ ยืนยันพร้อมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  
  
“พร้อมครับ ส่วนจำเป็นที่จะต้องมีชื่ออยู่ในรายชื่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคหรือไม่นั้น ผมว่าอย่าพูดไปถึงขนาดนั้นเลย มันจะเป็นการกดดันกรรมการบริหารพรรค ขอให้แล้วแต่กรรมการบริหารพรรค แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน วันนี้ ผมขอทำหน้าที่ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้ดีที่สุด” เศรษฐา กล่าว 
  
เมื่อถามถึงความคิดเห็นในการเป็น ส.ส. ควบคู่กับตำแหน่งอื่น จะทำงานได้ดีกว่ารับตำแหน่งนายกฯตำแหน่งเดียว เหมือนที่เคยพูดหรือไม่นั้น เศรษฐา ตอบว่า ตนมีความเชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ควรจะแยกออกจากกัน เมื่อคุณอยู่ในฝ่ายบริหารแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบในสภาฯ ด้วย ส่วนกรณี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า บัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่ออกมา ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับตัวเอง เพราะหน้าเก่าก็อยู่มา 8 ปี หน้าใหม่ก็ไม่มีประสบการณ์นั้น เศรษฐา มองว่า อนุทิน เป็นนักการเมืองอาวุโส คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานาน เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในเวทีการเมืองมาเยอะ เมื่อพูดอะไรตนก็รับฟัง แต่พรรคเพื่อไทยใช้นโยบายนำมาโดยตลอด และทำงานเป็นทีม รวมทั้งมีบุคคลที่มีคุณภาพคับแก้วอยู่เต็มไปหมด จึงฝากประชาชนพิจารณา  
  
“ตนไม่อยากพูดว่าตนมีประสบการณ์หรือไม่มีประสบการณ์ ขอให้ไปถามนายอนุทินเอง ตนไม่อยากพูดอะไร” เศรษฐา กล่าว 
   
ด้าน นพ.ชลน่าน คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เตรียมที่จะประกาศยุบสภาฯ โดยได้มีการเตรียมพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาฯ แล้ว เหลือเพียงรอลงนามรับสนองฯ และประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เท่านั้น เวลาที่เหลืออยู่ คือวันที่ 20-22 มี.ค. แต่มีหลายกระแสข่าวบอกว่าเป็นวันที่ 20 มี.ค. แต่ตนฟังจากรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดบอกว่า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งสุดท้ายอีกวันหนึ่งคือวันที่ 21 มี.ค. และคาดว่าจะประชุมจนถึงเวลา 16.00 น. และจะประกาศประราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ในสองวัน คือ วันที่ 21 มี.ค. หรือวันที่ 22 มี.ค. แต่เราไม่ได้กังวลว่าจะประกาศหรือไม่ประกาศ ตนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีการเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งวันเลือกตั้งก็น่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ค.